1. แตงกวาบด + โยเกิร์ต (หรือนม)
อยากมีผิวนุ่มๆ ต้องสูตรนี้เลย เน้นว่าเอาแตงกวาปอกเปลือกก่อนแล้วสับละเอียด ผสมโยเกิร์ตแบบที่ไม่มีรสสักนิด ผิวจะได้ชุ่มชื่นทันที
2. มะขามเปียก + น้ำผึ้ง
สูตรนี้อาจเติมน้ำผึ้งมากหน่อย เพราะมะขามเปียกมีความเป็นกรดรรมชาติสูง สูตรนี้ช่วยให้ผิวขาวใสอย่างเป็นธรรมชาติได้เลย
3. แอปเปิ้ลบด + น้ำผึ้ง
กินแอปเปิลแล้วผิวสวย และยังดีต่อผิวด้วย เพราะมีสารต้านอนุมูลอิสระมากมาย สูตรนี้ใช้ได้กับทุกผิว
4. กล้วยบด + โยเกิร์ต + น้ำผึ้ง
ใครผิวมันขอแนะนำ เพราะกล้วยบดดีจริงๆ กับการควบคุมความมัน ใช้แล้วผิวนุ่มจนสัมผัสได้
5. มะละกอ + ฟักทอง + น้ำผึ้ง
สูตรนี้ให้กลิ่นหอมสดชื่นมากๆ มะละกอและฟักทองบดยังช่วยเติมสารแอนติออกซิแดนท์ให้ผิวได้โดยตรง
6. มะเขือเทศ + มะนาว + น้ำผึ้ง
วิตามินเพียบ สูตรนี้กระชับผิวนี้ใช้ได้ทุกสภาพผิวจริงๆ แถมในมะเขือเทศยังมีไลโคปีน ที่ดีต่อการลดฝ้าได้ด้วย
7. ผงขมิ้น + ดินสอพอง + มะนาว
สูตรไทยแท้ๆ ที่นอกจากผิวจะเนียนสวยขึ้นด้วยขมิ้น ก็ยังเป็นส่วนผสมที่ลงตัวในการลดสิวได้ดีอีกด้วย
8. ว่านหางจระเข้ + โยเกิร์ต
ปรับผิวให้ขาวใส ชุ่มชื่น หอมนุ่มได้เลย เพราะว่านหางจระเข้นั้นดีกับผิวแห้ง ผิวมีสิว และผิวคล้ำแดดที่สุด

ขอขอบคุณ ข้อมูลจากผลิตภัณฑ์สบายอารมณ์ อ่านไอเดียแนวทางธรรมชาติได้ทุกวันที่ www.sabai-arom.com
ขมิ้นชัน สีเหลืองอมส้ม ที่นิยมนำมาทำแกงเหลือง หรือแกงปักษ์ใต้ มีฤทธิ์ร้อนในตัวเอง จัดเป็นพระเอกของการรักษาผิว ช่วยลบจุดด่างดำทำให้ผิวเปล่งปลั่งเนียนขึ้น บรรเทาผดผื่นคันทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ และช่วยรักษาสิวทำให้สิวสุกและแห้งเร็ว สามารถใช้ได้ทั้งแบบแห้งและเปียก
ดินสอพอง ที่เรานิยมเอามาประแป้งกันในวันสงกรานต์ ทำจากดินขาวหรือเกาลินที่มักจะนำมาผ่านกระบวนการอบร่ำกับกลิ่นดอกไม้มาแล้ว เป็นแป้งที่มีความเย็นจึงช่วยบรรเทาผดผื่นได้ หรือทำเป็นดินพอกหน้า ช่วยกระชับรูขุมขนให้ผิวเรียบเนียนขึ้นไม่แพ้ครีมพอกหน้าที่ขายกันแพงๆ (หากสังเกตดีๆ จะเห็นส่วนผสมที่ทำจากดินเกาลินเหมือนกัน) ก่อนใช้ควรนำดินสอพองมาอบ หรือคั่วในกระทะให้ร้อนเพื่อฆ่าเชื้อโรค แล้วบดให้ละเอียด ผสมกับผงขมิ้น ในอัตราส่วน 10 : 1 สำหรับผู้ใหญ่ และ 20 : 1 สำหรับใช้ในเด็ก เวลาใช้นำไปผสมน้ำเย็นจัดพอให้ข้น ทาให้ทั่วผิว พอกทิ้งไว้ 15-30 นาที เหมาะกับคนที่ผิวบอบบางแพ้ง่าย หากผสมกับนมสดจะใช้บำรุงผิวให้นุ่มนวล หรือคนที่ผิวมันหรือผิวแห้งมากอาจนำดินสอพองที่ผสมผงขมิ้นแล้วมาเติมน้ำผึ้ง ลงไปสัก 2 ช้อนโต๊ะ พอกหน้าไว้ประมาณ 5-10 นาทีแล้วจึงค่อยล้างออกด้วยน้ำอุ่น จะช่วยปรับสภาพผิวได้ดีขึ้น
น้ำผึ้ง ในเชิงแพทย์แผนโบราณถือว่าน้ำผึ้งเป็นยาอายุวัฒนะ มีการใช้น้ำผึ้งเป็นตัวประสานเนื้อยาสมุนไพรในการทำยาลูกกลอนมาแต่โบราณ เมื่อใช้กับการบำรุงผิวก็จะแทนมอยสเจอไรเซอร์ ช่วยให้ผิวเปล่งปลั่งชุ่มชื่นและนุ่มนวล เหมาะกับฟื้นฟูสภาพผิวที่แห้ง แตกเป็นขุย หรือผิวมัน
มะขามเปียก คุณทราบไหมว่ามะขามเปียกเป็นสินค้าส่งออกของบ้านเราไปยังประเทศที่ผลิต น้ำมันเพื่อไปล้างท่อน้ำมัน เป็นข้อยืนยันว่ามะขามเปียกมีสรรพคุณในการทำความสะอาดความมันบนใบหน้าอย่าง ล้ำลึก ทำให้ผิวเปล่งปลั่ง โดยเฉพาะจะเหมาะมากกับผู้ใหญ่ที่เริ่มมีริ้วรอยเหี่ยวย่น หรือคนที่เป็นฝ้า ในมะขามเปียกจะมีสาร AHA ที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าที่ตายแล้วให้หลุดลอกออกไป และมีสารเคลือบผิวเป็นฟิล์มบางๆ ช่วยเคลือบเซลล์ที่เริ่มแห้งเพราะสูญเสียความชุ่มชื้น เมื่อใช้เป็นประจำจะค่อยๆ ลบเลือนริ้วรอยได้ และช่วยทำให้ผิวเต่งตึงขึ้น
มะเขือเทศ ช่วยบำรุงผิวให้นุ่มเนียนใสเป็นสีชมพู โดยใช้มะเขือเทศสุกลูกโตๆ 1 ลูก แช่ให้เย็น แล้วนำมาฝานเป็นแว่นบางๆ แปะไว้ให้ทั่วผิวหน้า ทิ้งไว้ประมาณ 30-60 นาทีแล้วจึงล้างออกด้วยน้ำเย็น หรืออาจใช้มะเขือเทศสีดาที่ใช้ทำส้มตำสัก 2-3 ลูก นำมาเจาะแล้วคว้านเอาน้ำข้างในออกมาชโลมผิวหน้า หรือผ่าแบ่งครึ่งแล้วกลับเอาด้านในออกมาคลึงเคล้าไปบนใบหน้าก็ได้
แตงกวา เราสามารถใช้น้ำที่คั้นจากแตงกวามาชะโลมที่ผิว เพื่อรักษาความชุ่มชื้นบนใบหน้า และรอบดวงตา โดยเฉพาะช่วงหลังจากตากแดดมานานๆ ทำให้ผิวเย็น นำแตงกวา 2 ลูกหั่นเป็นชิ้นๆ แล้วใส่เครื่องปั่นให้ละเอียด ผสมกับน้ำวุ้นว่านหางจระเข้และน้ำผึ้ง ใช้ล้างหน้าแทนสบู่ หรือพอกไว้ประมาณ 15 นาทีแล้วล้างออก หรือฝานเป็นแว่นบางๆ วางแปะบนผิวหน้า พอรู้สึกว่าแห้งติดผิวแล้วก็ดึงออกเป็นมาสก์ (mask) ที่ช่วยดึงสิ่งสกปรกและเซลล์ที่ตายแล้วหลุดออกจากผิวหนังไปด้วย เป็นการรักษาความสะอาดในชั้นผิวที่ลึกขึ้น แล้วค่อยล้างน้ำออกเป็นปกติ
ว่านหางจระเข้ เป็นพืชสารพัดประโยชน์ ช่วยในการผลัดเซลล์ผิว เคลือบผิวเพื่อรักษาสมดุลของน้ำและไขมันใต้ผิวหนัง รักษาผิวอักเสบ และผิวที่ถูกไฟไหม้น้ำร้อนลวกได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังช่วยปรับสภาพผิวไม่ให้แห้งหรือมันมากเกินไป และรักษาสิว ฝ้า 
